(เขียนเมื่อ 2009-10-22 04:01:10 +0700)

หายไปนาน มัวแต่เล่นเกมอ่ะครับ พอดีได้รางวัลเป็นเครื่อง DSi มาตัวนึง โชคดีจริงๆ ทั้งๆ ที่ลืมไปแล้วว่าไปชิงรางวัลไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คริกๆ แต่ถึงจะเล่นเกมก็ไม่ลืมคอมที่รักหรอก ก็เก็บตังซื้อเองนี่นา … เนื่องจากว่าช่วงนี้่ว่างงานมาก ถึงมากที่สุด (ใครมีงานก็แบ่งๆ กันได้นะ) เลยลองไปเล่น ruby หน่อยนึง เคยไปอ่านรีวิวแล้วได้ข่าวมาว่าเทพมากมาย โดยเฉพาะ rails ที่เป็น frame work ที่สุดแสนจะวิเศษ ขนาดที่จะทำให้เราลืม MVC ตัวอื่นๆ ไปได้เลย (อะไรจะขนาดนั้น)

หลังจากที่ลองเล่นกับมันมาพอสมควร ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า มันน่ารักจริงๆ (อย่างน้อยก็ไม่ต้องเขียน action ใน xml ล่ะว้า) แต่การติดตั้งครั้งแรกนั้นยากเหมือนกันอ่ะ กว่าผมจะติดตั้งได้ก็งมไปหลายวันเหมือนกัน จริงๆ ติดตั้ง ruby ไม่เท่าไหร่หรอก พอจะใช้งาน rails นี่สิลงไปหลายรอบเหมือนกันกว่าจะจับจุดได้

ruby
เราจะใช้งาน ruby เราก็ต้องไปโหลด ruby ก่อนใช่ไหม งั้นก็ไปที่นี่เลย http://www.ruby-lang.org/en/downloads/ สำหรับตอนนี้ (28/09/2009) ให้โหลดตัว 1.8x มาก่อนนะครับ เห็นว่าตัว 1.9 มีปัญหาอยู่

จากนั้นก็ติดตั้งเหมือนโปรแกรมทั่วๆ ไปเลย แต่ตอนที่เลือกส่วนประกอบ ก็ให้เลือกติดตั้ง gem ไปด้วยนะครับ จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นอีกเยอะแยะมากมายเลย (ออกแนวเวอร์ไปแหละ) แต่มันก็จริงอ่ะ ถ้าหากเคยเล่น linux สาย debian คำสั่ง aptitude เป็นคำสั่งที่ทำให้ชีวิตเราสบายขึ้นเยอะเลย ขอให้รู้่ว่าจะเอาอะไรเท่านั้นแหละ apt-get จัดให้

ruby

ruby

รอสักครู่ใหญ่ๆ ประมาณต้มมาม่าเสร็จ ก็คงจะเสร็จแล้วล่ะครับ


เสร็จแล้วเราก็มาติดตั้ง rails กันเลย ruby กับ rails นี่ ประมาณ กิ่งทองใบหยก หรือ ผีเน่ากับโลงผุ ถ้าหากมี ruby อย่างเดียวมันก็ทำไรแทบไม่ได้ หรือถ้ามี rails อย่างเดียว ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ที่ผมบอกว่า ruby อย่างเดียวทำไรไม่ได้ หมายถึงเขียนโปรแกรมแบบ GUI อ่ะ ผมยังหา GUI บน Windows ไม่ได้เลย ท่านใดรู้ก็ช่วยแนะนำให้ด้วยนะครับ

อีกอย่าง จะเล่น ruby ต้องเล่นผ่าน command นะครับ นี่แหละความสนุกของมัน เปิด command prompt มาเลยครับ ทดลองคำสั่งง่ายๆ ก่อน พิมพ์ ruby –version เพื่อตรวจสอบว่าเราสามารถใช้งาน ruby ได้และตรวจสอบ version ไปในตัวเลย จากนั้นก็อัพเดทส่วนประกอบของ ruby โดยพิมพ์ gem update ตรงนี้รอกันยาวแน่นอนครับ เราปล่อยทิ้งไว้ หรือไปทานมาม่าที่เราต้มไว้เมื่อกี้ก็ได้

ruby

rails
เสร็จแล้วก็มาจัดการติดตั้ง rails เลย โดยพิมพ์ gem install rails –include-dependencies (คล้ายๆ apt-get install เลยเนอะ) จากนั้นก็รอครับ รอนานพอสมควร เพราะ gem จะเช็คส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องทุกอย่างเลย

ถ้ามาม่าถ้วยเมื่อกี้หมดแล้ว ก็ไปต้มมาใหม่อีกถ้วยเลยครับหรือไปกดเกม zuma สักรอบก็ได้ (ภาค 2 zuma revenge! สั้นมากวันเดียวเคลีย)

ruby

เสร็จแล้วก็ลองมาทำให้ rails ทำงานกัน ก่อนอื่นผมสร้าง directory ชื่อ rails ขึ้นมาก่อนโดยใช้คำสั่ง md rails แล้วเข้าไปใน directory โดยใช้คำสั่ง cd rails (โอ้ว dos เมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันนี้ก็ยังได้ใช้อยู่) แล้วทำการสร้าง web application โดยใช้คำสั่ง rails [ชื่อ web ที่ต้องการ] ผมลองสร้าง web app ชื่อ test

ruby

เสร็จแล้วลองใช้คำสั่ง dir จะเห็นว่ามี director ชื่อ test ขึ้นมา

ruby

เนื่องจาก rails เป็น frame work สำหรับเขียนเว๊ป แล้วการทำงานกับเว๊ปก็ต้องมี server ใน rails จะมี web server ชื่อ WEBrick มาให้ซึ่งก็พอใช้งานทั่วๆ ไปได้ในระดับหนึ่งหรือถ้าต้องการใช้งานในระดับใหญ่ๆ เราก็สามารถใช้ apache เป็น web server แทนก็ได้ ส่วนวิธีการตั้งค่าสำหรับ apache นั้น ผมยังทำไม่ได้เหมือนกัน คิดว่าคงต้องใช้ Camel หรือ ActiveMQ แทน คล้ายๆ Tomcat ไว้เขียน JSP ล่ะครับ

วิธีการรัน WEBrick ทำได้โดยต้องเข้าไปที่ directory ของ web app ที่เราต้องการรันก่อน แล้วพิมพ์คำสั่ง ruby script\server จากนั้นก็รอสักพัก อ้อบางครั้งตัว gem ของเราไม่ใช่ตัวล่าสุดก็รันไม่ได้นะครับ แต่ไม่ยากแค่ใช้คำสั่ง gem update –system แค่นี้ gem ของเราก็เป็นตัวล่าสุดแล้ว

ถ้าหากรัน server ได้ จะมีข้อความว่า WEBrick::HTTPServer#start :pid=xxxx port=3000 (เลข process id จะไม่ตรงกันสักครั้ง) ค่าเริ่มต้นตรง port ของ WEBrick จะเป็น 3000 นะครับ ถ้าหากไม่มี web server ตัวอื่นๆ ใช้งานอยู่สามารถเปลี่ยนเป็น 80 ได้

ruby

เราก็มาทดลองว่าสามารถรันได้จริงๆ ไหมโดยเปิด browser ขึ้นมาแล้วพิมพ์ http://localhost:3000 ถ้าหากได้ผลดังภาพก็แสดงว่าใช้งานได้ล่ะครับ

ruby

ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ลองเล่นดูแล้วจะรัก ruby ขึ้นมากเลยทีเดียว ตอนนี้งานในเมืองไทยอาจจะยังมีไม่เยอะ แต่อีกหน่อยน่าจะมาแรงแซง PHP เจ้าตลาด (ในเมืองไทย) ได้แน่นอนครับ

Comments

จำนวนความเห็น